• EstateX Protocol


    โปรโตคอล EstateX

    บทนำ

    EstateX คือโครงการที่มุ่งพัฒนารูปแบบการใช้งานและการดำเนินงานของอสังหาริมทรัพย์ (Real World Assets, RWA) ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาใช้แก้ไขข้อจำกัดของตลาดอสังหาริมทรัพย์แบบดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นเงินลงทุนเริ่มต้นที่สูง กระบวนการทำสัญญาที่ยุ่งยาก ข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ และสภาพคล่องที่ต่ำ

    EstateX ตั้งเป้าจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ผ่านการออก NFT ที่เป็นตัวแทนของสิทธิในการใช้พื้นที่อสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างระบบนิเวศใหม่ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ด้านการดำเนินงานพื้นที่ได้อย่างสะดวกและโปร่งใส

  • ภาพรวมเบื้องต้น

    Background Image

    ที่มา: มองศักยภาพของการท่องเที่ยวช่วงกลางวันในกรุงเทพฯ

    ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนหลายสิบล้านคนต่อปี แต่ในกรุงเทพฯ กลับมีไฮไลต์ด้านการท่องเที่ยวช่วงกลางคืนค่อนข้างมากกว่าช่วงกลางวัน ไม่ว่าจะเป็นย่านบันเทิง ห้างสรรพสินค้า หรือบาร์บนดาดฟ้าตึกสูง ซึ่งดึงดูดผู้คนยามค่ำคืน ในขณะที่ช่วงกลางวัน นักท่องเที่ยวมักไปวัดหรือพระบรมมหาราชวัง แต่ก็มีข้อสังเกตว่ากิจกรรมช่วงกลางวันยังขาดความหลากหลาย

    EstateX เล็งเห็นโอกาสในการพัฒนาการท่องเที่ยวช่วงกลางวันของกรุงเทพฯ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่แล้ว แต่สถานที่หรือกิจกรรมช่วงกลางวันยังมีไม่มาก หากสามารถสร้าง "แหล่งท่องเที่ยว" ใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์ได้ ก็จะส่งผลกระตุ้นการท่องเที่ยวโดยรวมของไทยได้อย่างมาก

    1) การประเมินตลาดท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ

    แม้ว่ากรุงเทพฯ จะมีชื่อเสียงในด้านวัฒนธรรม อาหาร ช้อปปิ้ง และแสงสียามราตรี แต่ความต้องการด้านกิจกรรมช่วงกลางวันยังไม่ได้รับการตอบสนองเพียงพอ EstateX จึงมองเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่ม ในการปรับปรุงพื้นที่บริเวณใจกลางเมืองตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยา ให้คึกคักขึ้นในช่วงเวลากลางวัน

    2) การพัฒนาโดยตรงผสานนวัตกรรมดิจิทัล

    ด้วยประสบการณ์ด้านอสังหาริมทรัพย์ EstateX เชื่อว่า นอกจากการลงทุนหรือปล่อยเช่าแบบดั้งเดิม การนำเทคโนโลยีดิจิทัล โดยเฉพาะ RWA (Real World Asset) และบล็อกเชน มาผสานในโครงการท่องเที่ยว จะช่วยเร่งให้การท่องเที่ยวช่วงกลางวันเติบโตยิ่งขึ้น การสร้างสถานที่ใหม่ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมพระบรมมหาราชวังในช่วงกลางวัน และใช้โครงสร้างการชำระเงินและบริหารแบบโปร่งใสผ่านบล็อกเชน จะทำให้โครงการเป็นจริงได้

    3) การหารือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ

    ทั้งทางกรุงเทพมหานครและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แสดงความสนใจในเป้าหมายของ EstateX ในการกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงกลางวัน มีการหารือถึงความร่วมมือในหลายมิติ หากได้ข้อสรุปร่วมกัน จะทำให้โครงการปรับปรุงพื้นที่ในเมืองและการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวช่วงกลางวัน มีความเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น

    สรุปแล้ว EstateX เล็งเห็น "จุดอ่อน" ของการท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ที่ขาดกิจกรรมช่วงกลางวันอย่างชัดเจน จึงวางแผนพัฒนาและปรับรูปแบบพื้นที่อสังหาริมทรัพย์เพื่อรองรับการท่องเที่ยวช่วงกลางวันโดยใช้ประสบการณ์ด้านอสังหาฯ ร่วมกับเทคโนโลยีบล็อกเชน (RWA) เพื่อสร้างความหลากหลายและมูลค่าให้การท่องเที่ยวไทย

  • ปัญหา

    ปัญหาในตลาดอสังหาริมทรัพย์แบบเดิม

    ในระบบอสังหาริมทรัพย์ดั้งเดิม การเข้าถือครองหรือดำเนินงานด้านอสังหาฯ ต้องใช้เงินลงทุนสูง และกระบวนการต่างๆ ค่อนข้างซับซ้อน ทำให้ผู้ที่มีเงินทุนไม่มาก หรือผู้ประกอบการรายย่อยเข้าถึงยาก นอกจากนี้ ยังมีปัญหาการขาดความสมดุลของข้อมูล (information asymmetry) ระหว่างผู้ถือกรรมสิทธิ์และผู้เช่า เป็นต้น ส่งผลให้มีต้นทุนการตรวจสอบสูง เกิดความล่าช้า และสภาพคล่องของตลาดลดลง ซึ่งปัญหาเด่นๆ คือ

    1) ต้นทุนเริ่มต้นสูง และกระบวนการซับซ้อน

    • ต้นทุนสูง: การซื้ออสังหาริมทรัพย์ต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก รวมถึงค่าใช้จ่ายในการตกแต่ง ปรับปรุง และการจัดตั้งระบบเพื่อดำเนินธุรกิจ
    • ขั้นตอนทางราชการและสัญญาที่ซับซ้อน: ต้องขออนุญาตเอกสารต่างๆ และตรวจสอบสัญญาทางกฎหมายที่มีความซับซ้อน บางครั้งต้องเสียค่าธรรมเนียมให้ผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายหรือที่ปรึกษาสูง
    • ข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์: แต่ละพื้นที่มีข้อกฎหมายและสภาพตลาดที่แตกต่างกัน หากต้องขยายไปต่างพื้นที่หรือต่างประเทศจะยิ่งซับซ้อน

    2) ขาดความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือในการถือสิทธิและสัญญาเช่า

    • ช่องว่างข้อมูล: มักไม่มีการเปิดเผยข้อมูลระหว่างเจ้าของกับผู้ดำเนินการอย่างเพียงพอ ทำให้ยากต่อการประเมินมูลค่าหรือความเสี่ยงได้ถูกต้อง
    • ขาดความโปร่งใส: ผู้มีส่วนได้เสียตรวจสอบได้ยากว่าสิ่งที่ดำเนินการสอดคล้องกับสัญญาจริงหรือไม่ อีกทั้งการบันทึกบัญชีอาจมีข้อคลาดเคลื่อน
    • ต้นทุนสูงกรณีพิพาท: เมื่อเกิดปัญหาด้านสิทธิหรือการเช่า อาจต้องเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องหรือไกล่เกลี่ย ซึ่งเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย

    3) สภาพคล่องจำกัด และประสิทธิภาพต่ำ

    • สภาพคล่องต่ำ: เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์เป็นทรัพย์สินที่มีลักษณะกายภาพ การซื้อขายเปลี่ยนมือทันทีจึงทำได้ยาก ต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน
    • ประสิทธิภาพต่ำในตลาดเช่า: หากสถานที่ถูกปล่อยว่างเป็นเวลานาน จะเกิดค่าใช้จ่ายในการดูแล และมูลค่าทรัพย์ลดลง
    • ต้นทุนการบริหารจัดการสูง: ต้องใช้คนและเวลาในการดูแลสัญญาเช่า การซ่อมบำรุง การสื่อสารกับผู้เช่า และอื่นๆ ที่เป็นค่าใช้จ่ายแฝง

    หากต้องการเรียนรู้วิธีเขียนคอนเทนต์ตั้งแต่พื้นฐาน สามารถศึกษาได้ในส่วน Basics

  • แนวทางแก้ไข

    NFTs Structure

    แนวทางของ EstateX

    EstateX ปรับโฉมการดำเนินงานและการใช้งานอสังหาริมทรัพย์ ด้วยบล็อกเชน (NFT และ Smart Contract) ดังนี้:

    • ใช้ NFT เพื่อยืนยันสิทธิการถือครองหรือดำเนินการในอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างชัดเจนและโปร่งใส
    • บริหารจัดการสัญญาอัตโนมัติผ่าน Smart Contract ลดความซับซ้อนในการดำเนินงาน
    • รองรับระบบชำระเงินภายในที่สะดวกและปลอดภัย
  • EstateX Mainnet ในฐานะโครงสร้างพื้นฐาน

    EstateX Mainnet ใช้เทคโนโลยี Base chain เพื่อสร้างแพลตฟอร์มบล็อกเชนความเร็วสูง ที่รองรับการประมวลผล Big Data ปริมาณมาก สามารถขยายไปยังการใช้งานหลากหลาย ตั้งแต่ภาคอสังหาริมทรัพย์ไปจนถึง DApp ต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม

    Background Image

    1) คุณสมบัติหลัก

    • Data Block สำหรับธุรกรรมขนาดใหญ่ (ZK Rollup)
      รองรับ Data Block ที่ปรับแต่งเพื่อรองรับปริมาณธุรกรรมสูง โดยใช้ ZK Rollup เพื่อช่วยลดภาระบนเครือข่ายหลักและลดค่าธรรมเนียม
    • การเข้ารหัสธุรกรรม & การเร่งความเร็ว
      รองรับการเข้ารหัสในระดับธุรกรรม พร้อมโมดูลเสริมความเร็วเพื่อเพิ่ม TPS และยืนยันธุรกรรมได้เร็ว
    • นโยบาย Gas ที่ยืดหยุ่น
      สามารถปรับค่าธรรมเนียมให้แตกต่างตามแต่ละแพลตฟอร์มหรือเซ็กเมนต์ของเชน และยังทำงานแบบ Private Chain ได้หากองค์กรต้องการ
    • Platform Layer ที่เสถียร
      ใช้อัลกอริทึมฉันทามติแบบ PoS หรือ IBFT 2.0 ช่วยสร้างความปลอดภัยและความเสถียรของเครือข่าย

    2) จุดเด่นทางเทคนิค

    Multi-chain & Generation-Rollup
    • สร้าง Data Blocks ได้อย่างยืดหยุ่นเพื่อรองรับธุรกรรมจำนวนมาก
    • ขยายไปยัง Side Chain เพื่อจัดเก็บ “Generation Blocks” เพื่อเสริมความมั่นคงและความปลอดภัย
    • รองรับการเชื่อมต่อ Cross-chain และการขยาย Data Blocks ไปยัง Layer อื่นๆ เพิ่มเติม
    Layer 2 Scaling
    • คำนวณธุรกรรมส่วนใหญ่แบบ Off-chain พร้อมบันทึกสรุปข้อมูลกลับไป Mainnet ช่วยลดค่าธรรมเนียมและเพิ่มความเร็ว
    • ผสานการทำงานของ Rollup เพื่อความปลอดภัย (ตรวจสอบบน Mainnet) และประสิทธิภาพ (Off-chain)
    • ตั้งเป้าให้ EstateX Mainnet เป็นระบบที่มีความเร็วและรองรับข้อมูลปริมาณมากได้ดีที่สุด

    3) การเปรียบเทียบประสิทธิภาพ

    OS / Chain Finality Speed (TPS) Consensus Virtual Machine Architecture
    EstateX 1~5 วินาที 1,000 (Global) / 3,000 (Asia) / 8,000 (Local) PoS / IBFT 2.0 EstateX Commit Engine Mainnet Layer2-Blockchain
    Ethereum ~1.5 นาที ~15 TPS PoW EVM Single-Blockchain
    COSMOS 3~7 วินาที 1,000~3,000 TPS Tendermint (PoS) - COSMOS Hub
    EOS <1 วินาที 100,000 TPS (ตามทฤษฎี) / 3,800 TPS (ทดสอบจริง) dPoS EOS VM Parallel processing

    ตารางข้างต้นเป็นเพียงการเปรียบเทียบเพื่อแสดงภาพรวมระหว่าง EstateX Mainnet กับบล็อกเชนที่เป็นที่รู้จัก ตัวเลขเป็นผลจากการทดสอบภายใน และอาจแตกต่างออกไปเมื่อใช้งานจริง

    สรุป

    EstateX Mainnet ถูกออกแบบให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนที่มีประสิทธิภาพสูง รองรับ Big Data และมีความยืดหยุ่นด้านนโยบาย Gas สามารถขยายได้หลายรูปแบบ ด้วยการผสานเทคโนโลยี Rollup ขั้นสูง ระบบ Data Block แบบไดนามิก และมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง EstateX มีเป้าหมายรองรับโครงการในหลายภาคอุตสาหกรรม ตั้งแต่อสังหาริมทรัพย์จนถึง DApp ต่างๆ เป็นรากฐานสำหรับบริการบล็อกเชนยุคถัดไป

  • รูปแบบการดำเนินงาน

    รูปแบบดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์

    EstateX ใช้ 2 แนวทางหลักในการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์

    1) รูปแบบดำเนินการโดยตรง (Direct Operation)

    ทางมูลนิธิ (Foundation) พัฒนา/ปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวและพื้นที่เพื่อการค้า และออก NFT ที่เป็นสิทธิการใช้พื้นที่เหล่านั้น

    ผู้ถือ NFT สามารถดำเนินกิจการเองได้อย่างอิสระ โดยจ่ายเพียงค่าธรรมเนียมการดูแล (Management Fee) ให้แก่มูลนิธิตามที่กำหนด ไม่เกี่ยวกับสัดส่วนรายได้

    2) รูปแบบความร่วมมือ (Partnership Model)

    EstateX ร่วมมือกับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่แล้ว เพื่อนำสิทธิการใช้พื้นที่มาทำเป็น NFT บนบล็อกเชน

    บริษัทพาร์ทเนอร์จะเป็นผู้ดำเนินการพื้นที่เอง ในขณะที่ EstateX ให้บริการด้านเทคนิค เช่น การออก NFT, Smart Contract, ระบบชำระเงิน

    บริษัทพาร์ทเนอร์จะจ่าย “ค่าธรรมเนียมการใช้เทคโนโลยี” คงที่ให้มูลนิธิ โดยไม่มีโมเดลแบ่งรายได้

    NFT ที่เป็นสิทธิในการดำเนินงานจะอยู่บนพื้นฐานของ “กรรมสิทธิ์เฉพาะ” และ “การใช้งานโดยเฉพาะ”

  • โครงสร้างโทเคนและการใช้งาน

    โครงสร้างโทเคนและการใช้งานในระบบ

    ระบบนิเวศของ EstateX จะมีโทเคนหลักเป็นโทเคนยูทิลิตี้ (EXA) และโทเคนการกำกับดูแล (EXG) ควบคู่กับการใช้พอยท์ชำระเงินภายใน

    1) EXA (Utility Token)

    • ใช้เป็นสื่อกลางการชำระเงินในแพลตฟอร์ม (ซื้อ NFT, จ่ายค่าเช่า, ค่าใช้จ่ายในสถานที่ ฯลฯ)
    • ใช้จ่ายเป็น Gas fee
    • นำมาเป็นเงื่อนไขรับสิทธิพิเศษ เช่น เข้าร่วมอีเวนต์หรือโปรโมชัน
    • ใช้จ่ายค่าธรรมเนียมการออก NFT และค่าบริการต่างๆ
    • หากทำการ Staking EXA จะได้รับ Membership NFT (สิทธิพิเศษต่างๆ เช่น ส่วนลด คิวจองล่วงหน้า เป็นต้น)
    Background Image
    # การกระจายโทเคน (Token Distribution)
    
    - จำหน่าย (Sales): 40%
    - Ecosystem: 30%
    - การตลาด (Marketing): 15%
    - ทีมงาน (Team): 7%
    - ที่ปรึกษา (Advisors): 3%
    - สำรองสภาพคล่อง (Liquidity Reserve): 5%
    

    ตัวอย่างการใช้งาน EXA

    • ผู้ใช้งาน A ซื้อ NFT เพื่อดำเนินธุรกิจคาเฟ่บนแพลตฟอร์ม EstateX ชำระด้วย EXA และจ่ายค่าธรรมเนียมการดูแลรายเดือนด้วย EXA
    • นักท่องเที่ยว B ใช้ EXA ในการชำระค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวและซื้อสินค้า/บริการ เพื่อรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม

    2) EXG (Governance Token, Non-Tradeable)

    โทเคนสำหรับการมีส่วนร่วมด้านการกำกับดูแล แจกจ่ายให้กับผู้ที่ Staking EXA ระยะยาว มีสิทธิในการโหวตทิศทางหรือการตัดสินใจสำคัญของโครงการ

    จะไม่มีการนำ EXG ขึ้นกระดานเทรดอย่างเป็นทางการหรือแจกจ่ายโดยมูลนิธิโดยตรง แต่ไม่จำกัดการแลกเปลี่ยนระหว่างผู้ถือโทเคนแบบ Peer-to-Peer

    3) พอยท์ชำระเงินภายใน (Internal Payment Points)

    เป็นพอยท์ภายในที่ใช้ชำระเงินภายในสถานที่หรือร้านค้า ช่วยให้การทำธุรกรรมสะดวกและเสถียร

    ยึดมูลค่า 1:1 ตามอัตราที่กำหนดและปฏิบัติตามกฎหมายการเงินภายในประเทศอย่างเคร่งครัด


  • โครงสร้าง NFT

    NFTs Structure

    โครงสร้าง NFT ใน EstateX

    EstateX มี NFT 2 ประเภทหลัก

    1) Membership NFT

    ได้รับเป็นรางวัลจากการ Staking EXA เท่านั้น เพื่อมอบสิทธิพิเศษในโลกจริง เช่น สิทธิเข้าพื้นที่ได้ก่อน หรือเชิญร่วมงานกิจกรรม VIP

    2) NFT สิทธิในการดำเนินงานพื้นที่ (Space Operation Rights NFT)

    มอบสิทธิการดำเนินงานพื้นที่แบบ “เอกสิทธิ์” ไม่มีการแบ่งรายได้จากกำไรของการดำเนินงาน

    หากไม่ได้ใช้งาน ผู้ถือ NFT สามารถปล่อยเช่าให้ผู้อื่นได้ โดยเรียกเก็บค่าตอบแทนแบบคงที่

  • โมเดลธุรกิจ

    Background Image

    โมเดลธุรกิจของ EstateX

    รายได้ของ EstateX มาจาก:

    • ค่าธรรมเนียมแรกเข้าจากการออก NFT สำหรับสิทธิการดำเนินงาน
    • ค่าธรรมเนียมการดูแล (Management Fee) ที่ผู้ดำเนินงานพื้นที่จ่ายเป็นประจำ
    • ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม เมื่อมีการใช้ EXA บนแพลตฟอร์ม
    • ค่าธรรมเนียมการใช้เทคโนโลยีจากบริษัทพาร์ทเนอร์
  • ความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎหมาย

    EstateX ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับด้านการเงินและอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมถึงการเข้าร่วมโครงการ Regulatory Sandbox ตามความเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงทางกฎหมายและหลีกเลี่ยงประเด็นการเป็นหลักทรัพย์ (Securities) ให้มากที่สุด

  • สรุป

    ข้อสรุป

    เอกสารฉบับนี้ได้อธิบายถึงวิสัยทัศน์ของโครงการ EstateX ในการสร้างนวัตกรรมด้านการใช้งานและการดำเนินงานอสังหาริมทรัพย์ พร้อมโครงสร้างโมเดลธุรกิจและระบบโทเคน รวมถึงการใช้ NFT เพื่อรับรองสิทธิ

    โดยการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาช่วยยืนยันสิทธิการดำเนินงานให้โปร่งใสและเชื่อถือได้ EstateX มุ่งสร้างคุณค่าใหม่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก ทีมงานจะพยายามจัดการกับความท้าทายต่างๆ ทั้งด้านตลาด เทคโนโลยี และกฎหมาย เพื่อให้เกิดระบบนิเวศที่ยั่งยืนและเป็นประโยชน์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย

  • ข้อจำกัดความรับผิด

    เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวคิด ทิศทาง และหลักการดำเนินงานของโครงการ EstateX รวมถึงแผนการ ประมาณการ และการคาดการณ์ ณ เวลาที่จัดทำ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดอาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกได้โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า เนื่องจากสภาพตลาด กฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ หรือนโยบายภายใน

    เอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำเชิญชวนให้ลงทุนหรือคำแนะนำทางการเงิน/กฎหมาย การตัดสินใจใดๆ ที่เกิดจากการอ้างอิงข้อมูลในเอกสารนี้ ถือเป็นความเสี่ยงและดุลยพินิจของผู้ลงทุนเอง ทาง EstateX และบริษัทในเครือจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการอ้างอิงหรือเข้าร่วมในโครงการนี้

    1) ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลและบล็อกเชน

    • ความผันผวนของราคา: มูลค่าของโทเคน (ทั้งคริปโตและ NFT) อาจเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง และอาจลดลงจนเป็นศูนย์ได้
    • ความเสี่ยงทางเทคนิค: อาจมีโอกาสพบข้อผิดพลาดในเครือข่ายบล็อกเชน การสูญหายของกุญแจส่วนตัว (Private Key) การถูกแฮก หรือช่องโหว่ใน Smart Contract
    • การเปลี่ยนแปลงของกฎหมาย/ข้อบังคับ: กฎเกณฑ์ด้านคริปโตเคอร์เรนซี, NFT หรือ Staking อาจเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละประเทศ ซึ่งอาจส่งผลให้ต้องเลื่อน ระงับ หรือปรับกลยุทธ์บางส่วนของโครงการ

    2) Staking และ NFT

    • ผลตอบแทนจาก Staking: รางวัล (โทเคน, NFT, สิทธิประโยชน์) ที่ได้รับขึ้นอยู่กับนโยบายภายในและภาวะตลาด ไม่ใช่การรับประกันกำไรหรือเงินปันผล
    • มูลค่าที่ไม่แน่นอนของ NFT: NFT (เช่น Membership หรือสิทธิการดำเนินงาน) อาจเปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการและความขาดแคลน ไม่มีการการันตีโดย EstateX ว่าราคาจะเพิ่มขึ้นหรือมีสภาพคล่อง
    • มุมมองกฎหมายหลักทรัพย์: โครงการไม่ได้ให้ผลตอบแทนส่วนแบ่งกำไร จึงมุ่งหลีกเลี่ยงการเป็นหลักทรัพย์ อย่างไรก็ตาม แต่ละประเทศอาจตีความแตกต่างกัน

    3) ข้อพึงระวังในการเข้าร่วมโครงการ

    • การตัดสินใจขึ้นอยู่กับผู้ลงทุน: เอกสารนี้ไม่ใช่ข้อบังคับ ผู้เข้าร่วมควรปรึกษาด้านกฎหมาย/การเงินก่อนตัดสินใจ
    • KYC/AML: ในบางประเทศอาจต้องปฏิบัติตามขั้นตอนยืนยันตัวตน (KYC) และป้องกันการฟอกเงิน (AML) ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของผู้เข้าร่วม
    • การปรับเปลี่ยนนโยบาย: แผนการกระจายโทเคน โครงสร้าง Staking การออก NFT และนโยบายต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

    ข้อจำกัดความรับผิดนี้มีขึ้นเพื่ออธิบายความเสี่ยงที่อาจเกิดในโครงการ EstateX โดยกฎหมายและข้อบังคับของแต่ละประเทศจะมีผลบังคับใช้สูงสุด ผู้ที่สนใจควรศึกษาเอกสารนี้อย่างถี่ถ้วน และขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางก่อนตัดสินใจ